Fixit Recommend: การปรับปรุงบ้านหลังน้ำท่วม - ระบบไฟฟ้า
ระบบไฟฟ้า
ขณะน้ำท่วมทุกบ้านคงจะปิดวงจรไฟฟ้าหรือคัทเอ้าท์ทั่วทั้งบ้านทำให้ไม่มีกระแสไฟฟ้าเดินในระบบ
ซึ่งลดอันตรายแก่ผู้อยู่อาศัย และแก้ปัญหาจากไฟฟ้าลัดวงจรได้อย่างแน่นอน
แต่เมื่อน้ำลดลงควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านของท่าน ดังนี้
-
เปิดคัทเอ้าท์ให้มีกระแสไฟฟ้าเข้ามา
ถ้าปลั๊กหรือจุดใดจุดหนึ่งในระบบยังเปียกชื้นอยู่
คัทเอ้าท์จะตัดไฟและฟิวส์จะขาดให้เปลี่ยนฟิวส์แล้วทิ้งไว้ 1 วัน
ให้ความชื้นระเหยออกไปแล้วลองทำใหม่
หากยังเป็นเหมือนเดิมคงต้องตามช่างไฟมาแก้ไขดีกว่าเสี่ยงชีวิต
-
เมื่อทดสอบผ่านขั้นตอนแรกไปแล้ว
ลองทดสอบเปิดไฟฟ้าทีล่ะจุดและทดสอบกระแสไฟฟ้าในปลั๊กว่ามาปกติหรือไม่
ด้วยไขควงทดสอบไฟ หากทุกจุดทำงานได้ก็สบายใจได้ หากมีปัญหาอยู่ต้องรอให้ความชื้นระเหยออกก่อน
ถ้ายังมีปัญหาก็คงต้องตามช่างมาแก้ไขหรือเปลี่ยนปลั๊ก/สวิตซ์เหล่านั้น
-
ลองดับไฟทุกจุดในบ้าน
ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทั้งหมด
แต่ยังเปิดคัทเอ้าท์ไว้แล้ววิ่งไปดูมิเตอร์ไฟฟ้าหน้าบ้านว่าหมุนหรือไม่
หากไม่เคลื่อนไหวแสดงว่าไฟฟ้าในบ้านเราไม่น่าจะรั่ว
แต่ถ้ามิเตอร์หมุนแสดงว่าไฟฟ้าในบ้านท่านอาจจะรั่วได้ให้รีบตามช่างไฟมาดูแลโดยเร็ว
-
หากพอมีงบประมาณสำหรับปรับเปลี่ยนระบไฟฟ้าในบ้านของท่าน
แนะนำให้ตัดปลั๊กไฟในระดับต่ำๆ ในบ้านชั้นล่างออกให้หมด (ถ้าคิดว่าน้ำท่วมอีกแน่ๆ)
แล้วปรับตำแหน่งปลั๊กไฟไปอยู่ที่ระดับประมาณ 1.10 – 1.50 เมตร
หลังจากนั้นควรแยกวงจรไฟฟ้าออกเป็น 2 – 3 วงจร คือ
1. วงจรไฟฟ้าสำหรับบ้านชั้นล่างและไฟฟ้าภายนอกอาคาร (ที่น้ำอาจท่วมถึง)
2. วงจรไฟฟ้าสำหรับบ้านชั้นบนขึ้นไป (ที่น้ำท่วมไม่ถึง)
3. วงจรสำหรับเครื่องปรับอากาศ หรือดียิ่งกว่านั้นคือ มีวงจรที่การกระทำดังกล่าวจะทำให้ท่านควบคุมการเปิด-ปิดวงจรไฟฟ้าในบ้านได้อย่างอิสระ และง่ายต่อการซ่อมแซมบำรุงรักษา
4. วงจรสำหรับส่วนครัวและตู้เย็น (สำหรับเมื่อออกจากบ้านนานๆ แล้วของในตู้เย็นจะได้ไม่เสีย)
1. วงจรไฟฟ้าสำหรับบ้านชั้นล่างและไฟฟ้าภายนอกอาคาร (ที่น้ำอาจท่วมถึง)
2. วงจรไฟฟ้าสำหรับบ้านชั้นบนขึ้นไป (ที่น้ำท่วมไม่ถึง)
3. วงจรสำหรับเครื่องปรับอากาศ หรือดียิ่งกว่านั้นคือ มีวงจรที่การกระทำดังกล่าวจะทำให้ท่านควบคุมการเปิด-ปิดวงจรไฟฟ้าในบ้านได้อย่างอิสระ และง่ายต่อการซ่อมแซมบำรุงรักษา
4. วงจรสำหรับส่วนครัวและตู้เย็น (สำหรับเมื่อออกจากบ้านนานๆ แล้วของในตู้เย็นจะได้ไม่เสีย)
